ดูแลรักษาโคมไฟอย่างไรให้ไม่เก่า
หากจะต้องดูแลรักษาโคมไฟอาจจะต้องแบ่งตามประเภทของโคมไฟเพราะการดูแลรักษานั้นแตกต่างกันตามการใช้งาน สิ่งที่ทำให้บ้านหรือสถานที่ต่างๆดูสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้น โคมไฟนับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับบ้านหรือสถาณที่ต่างๆโคมไฟนอกจากจะช่วยสร้างแสงสว่างให้กับบริเวณรอบๆแล้วยังช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นหรือปลอดภัย ซึ่งโคมไฟแต่ละประเภทนั้นต่างเหมาะสำหรับมุมหรือห้องต่างๆที่แตกต่างกันและในการทำความสะอาดบ้านเรามักจะมองข้ามการทำความสะอาดโคมไฟไปโดยปริยายจึงทำให้โคมไฟไม่ค่อยสว่าง เก่าเร็ว อายุการใช้งานสั้นต้องชื้อใหม่มาเปลี่ยนหรือจ้างช่างมาซ่อม หากเราไม่อยากเสียเงินหรือเกิดความยุ้งยากบ่อยๆ เพียงแค่เราหมั่นทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเพียงเท่านี้โคมไฟก็สวยงามได้เหมือนเดิม
โคมไฟเพดานหรือโคมไฟระยา
เป็นโคมไฟชนิดที่ว่าการทำความสะอาดนั้นยากที่สุดเพราะโคมไฟถูกติดตั้งบนผนังที่สูง เช่นห้องโถง ห้องรับแขก หากจะต้องทำความสะอาดจำเป็นต้องหาตัวช่วยดังนี้คะ
1. เตรีมอุปกรณ์ ไม้สำหรับปัดเช็ดโคมไฟ เช่นไม้ปัดขนไก่ เครื่องเป่าลม ผ้าสะอาด น้ำยาทำความสะอาด บันได อุปกรณ์รองด้านล่างโคมไฟ
2. ก่อนจะทำความสะอาดโคมไฟอย่าลืมปิดสวิตซ์ไฟก่อนนะคะ จะไม่ทำให้เกิดอัตรายคะ
3. เตียมอุปกรณ์สำหรับรองในส่วนด้านล่างของโคมไฟ เช่นเบาะพลาสติก เพื่อรองรับชิ้นส่วนของโคมไฟที่อาจจะหลุดหล่นขณะทำความสะอาด
4.นำบันไดล็อกบันไดให้แน่น ไม่ควรยืนบนเก้าอี้ที่พื้นไม่เรียบคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จากนั้น ใช้ไม้ปัดขนไก่ หรือผ้าสะอาดเช็ดฝุ่นที่เกาะออกไปก่อน โคมไฟเพดานมีลักษณะที่แตกต่างกัน หากเป็นโคมไฟที่มีการปาณีตสูงทำให้การทำความสะอาดเข้าถึงจุดซอกต่างๆได้ยากควรเช็ดอย่างระมัดระวัง
5. จากนั้นให้นำผ้าอีกผืน ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดโคมไฟให้ทั่ว ใช้ผ้าเช็ดจนสะอาด หากโคมไฟในบางส่วนเข้าถึงยาก ให้ใช้เครื่องเป่าลม หรือไดร์เป่าผมเป่าฝุ่นออกคะ
6. จากนั้นรอให้โคมไฟแห้งสนิท เก็บอุปกรณ์ รอให้โคมไฟแห้งและมั่นใจว่าสายไฟแห้งเช่นกัน จึงเปิดใช้งานตามปกติ จะสังเกตเห็นว่าโคมไฟดูสว่างมากขึ้นคะ
ที่มารูปภาพ : www.designhousestockholm.com
โคมไฟตั้งพื้น
โคมไฟตั้งพื้นถือว่าเป็นโคมไฟที่ดูแลรักษาได้ไม่ยากเนื่องจากการเข้าถึงโคมไฟนั้นง่าย ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่เราใช้ง่ายสะดวก วิธีแสนง่ายก็คล้ายๆกับการทำความสะอาดของใช้ภายในบ้านทั่วๆไป เพียงแต่ว่าเราจะต้องระมัดระวังในเรื่องของไฟนั้นเองคะ ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งที่ทำความสะอาดคะ
1. หากเป็นโคมไฟที่สามารถเคลื่อนที่ได้ให้เรายกโคมไฟออกไปบริเวณนอกบ้าน สังเกตฝุ่นว่ามีจำนวนเยอะไหม จากนั้นให้เราใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจาโคมไฟอยางเบามือ ไม่ควรใช้ไม้ปัดขนไก่เพราะฝุ่นจะคลุ้งไปทั่ว
2. จากนั้นให้เราฉีดสเปรย์ทำความสะอาดลงไปที่โคมไฟให้ทั่งฉีดกระจายเป็นจุดที่ละน้อย จากนั้นใช้ผ้าแห้งอีกผืนเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วจนโคมไฟสะอาด
3. วางโคมไฟให้ถูกลม ไม่ควรวางโคมไฟในที่แดดจ้าคะ และเราควรทำความสะอาดโคมไฟอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อโคมไฟจะได้ดูใหม่อยู่เสมอคะ
ที่มารูปภาพ : www.designhousestockholm.com
โคมไฟตั้งโต๊ะ
ดูเหมือนว่าโคมไฟตั้งโต๊ะจะเป็นโคมไฟที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะการใช้งานที่สะดวก เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะข้างหัวเตียง โคมไฟโต๊ะทำงาน โคมไฟโต๊ะข้างโซฟา หรือโคมไฟโต๊ะอ่านหนังสือ เมื่อการใช้ง่านที่บ่อยก็จำเป็นต้องดูแลรักษาบ่อยเช่นกันการทำความสะอาดก็จะคล้ายกับโคมไฟตั้งพื้น แต่สำหรับบางคนอาจนำโคมไฟตั้งโต๊ะยึดติดกับโต๊ะไปเลย ดั้งนั้นหากจะทำต้องความสะอาดเราควรจะจะเก็บของที่อยู่บนโตีะออกให้เรียบร้อย
1. สังเกตดูขนาดฝุ่นที่เกาะโคมไฟและรูปแบบของโคมไฟ ความยากง่ายในการทำความสะอาด แนะนำการเลือกชื้อโคมไฟควรเลือกโคมไฟที่ไม่มีร่องซอกเล็กหรือโคมไฟที่มีวัสดุอื่นๆประดับตกแต่งมากๆเพราะนั้นจะเป็นที่รวมฝุ่นอย่างดีเลยคะ
2. ใช้ผ้าแห้งขนนุ่มหรือฟองน้ำนุ่มเช็ดทำความสะอาดโคมไฟ จากนั้นฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณสายไฟ คะ ใช้ผ้าเช็ดอีกรอบจนโคมไฟสะอาด หากเป็นโคมไฟแก้วที่มีคราบหมองสามารถนำกระดาษทรายเบอร์ 2000 มาขัดเบาๆ แล้วนำผ้าฉีดสเปรย์ทำความสะอาดมาเช็ดอีกทีคะ
3.เสร็จแล้วรอให้แห้งตรวจเช็คสภาพของสายไฟและหลอดไฟให้ดี ไม่ขาดหรือชำรุด เมื่อแห้ง สามารถเสียบปลั๊กใช้งานได้ตามปกติคะ
ที่มารูปภาพ : www.designhousestockholm.com
ถึงแม้เราจะทำความสะอาดโคมไฟโดยการแบ่งจำแนกเป็นประเภทการใช้งานของโคมไฟแล้ว ในแต่ละประเภทก็มีชนิดของโคมไฟที่ต่างกันออกไป เช่นโคมไฟตั้งโต๊ะ แบบโคมไฟผ้า แบบหินอ่อน แบบแก้ว แบบพลาสติก เป็นต้นดั้งนั้นจะมีการทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไปตามวัสดุทีนำมาทำเป็นโคมไฟ แต่วิธีการทำความสะอาดที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นการทำความสะอาดโคมไฟเบื้องต้นที่สามารถนำไปใช้งานได้ ที่สำคัญเราควรหมั่นดูแลรักษาโคมไฟภายในบ้านอยู่เสมอ บทความต่อไปจะจำแนกประเภของโคมไฟจากวัสดุและแนะเทคนิคการดูแลทำความสะอาดให้สวยวิ้งอยู่เสมอ
สนใจสินค้าโคมไฟ
สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.ของใช้ภายในบ้าน.com